วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2552

แม่

แม่ของเรา
แม่
สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่เคารพทุกท่านวันนี้ผมได้มีเวลามาเขียน
เรื่องแม่อีกมุมมองหนึ่งของผมที่ผมได้ไปสัมผัสมา ก็ขอเล่าให้ท่านได้อ่านกันเลยจะดีกว่า
วันนี้ผมได้ไปโรงพยาบาลและมีคนป่วยมากมาย
แต่มีอยู่รายหนึ่งอายุ 83 ปี ได้พูดคุยกับผม แกเล่าให้ฟังว่าแกมีลูกหลายคนแต่ทุกคนได้แยกเรือนออกไปหมดแล้ว มีลูกอยู่คนหนึ่งรวยมากมีไร่หลายร้อยไร่ส่งเงินให้แม่ใช้เดือนละ หนึ่งพันบาท ลูกชวนไปอยู่ด้วยก็ไม่ยอมไป และช่วยเหลือตัวเองมาตลอดไม่ให้เป็นภาระของลูกๆ เป็นคนประหยัดใครไม่มีเงินก็ให้เขายืมและก็ให้ดอก ส่วนมากยืมเงินไปแล้วไม่คืนให้ ไปทวงก็บอกไม่มีแถมยังโดนด่ากลับมาอีก มาหาหมอก็เดินมา ไม่ยอมขึ้นรถกลัวเสียเงิน ลูกชวนไปอยู่ก็ไม่ยอมไปขออยู่บ้านตัวเอง ที่ผมมาเล่าให้ฟังก็เป็นเรื่องเล็กน้อยแต่มีข้อคิดมากมายในเรื่องนี้ ที่เป็นคำถามคำตอบได้มาก ก็ขอให้ใช้วิจารณญานคิดก็แล้วกัน ที่โบราณบอกว่าลูกหลายคนพ่อแม่เลี้ยงได้แต่พ่อแม่จะอยู่อีกไม่เท่าไรก็ต้องจากไปแต่เลี้ยงพ่อแม่กันไม่ได้ อย่างเรื่องที่ผมเขียนก็เข่นเดียวกันแกบอกว่าลูกหลายคน
มีให้เงินอยู่คนเดียวคือคนที่รวยมากแต่ให้เดือนละ หนึ่งพันบาทเท่านั้น แล้วผมก็คิดเองนะครับว่าแกคงคิดว่า ให้แกแค่เดือนละหนึ่งพันบาทแล้วอย่างนี้ถ้าเข้าไปอยู่ด้วยจะลำบากมากขนาดไหน เพราะจะต้องไปเจอกับลูกสะไภ้
อีกและหลานๆอีก อาจจะเป็นส่วนเกินของลูกก็ได้เพราะฉะนั้นอยู่คนเดียวดีกว่าไม่ต้องเป็นภาระกับลูกด้วย ท่านผู้อ่านครับผมขอพูออีกหน่อยนะครับ เวลาเรามีโอกาสไปหาพ่อแม่ควรจะซื้อของติดมือไปด้วยให้พ่อแม่ของกินก็ได้หรือของใช้ก็ได้ อย่าไปมือเปล่านะครับเขาบอกว่าถ้าเรามีไปให้พ่อแม่เราจะทำให้เราได้บุญด้วยอย่าลืมนะครับ บางท่านเห็นพ่อแม่ค้าขายของในร้านมีมากมายไม่ต้องซื้อไปให้ก็ได้ขาดเหลืออะไรก็ใช้ของในร้าน แต่อย่าคิดอย่างนั้นนะครับมันคนละอย่างกันคำว่าเอาไปให้พ่อแม่นั้นอีกเรื่องหนึ่งต้องเข้าใจตรงนี้ด้วย ไม่อย่างนั้นเราจะไม่ได้บุญกุศลที่เราได้ทำกับพ่อแม่เราเลยนะครับ ผมขอจบแค่นี้ก่อนะครับไว้โอกาสหน้าผมจะมาเขียนอีก

วันนี้ที่ผมเขียนเรื่องแม่ก็เป็นอีกมุมมองที่ผมเจอมาจึงนำมาเล่าสู่กันฟัง และที่เป็นเรื่องน่าเศร้ามากก็ตรงที่สามีตบตีภรรยาของตัวเองจนได้รับบาดเจ็บ ก็มาบอกแม่ให้ ช่วยพาไปหาหมอทีโรงพยาบาล แต่ด้วยความโกรธของแม่ที่มีต่อลูกเขยก็ขับรถไป ต่อว่าลูกเขยที่มาตบตีลูกของตนก็เกิดการถกเถียงกันผลสุดท้ายไม่มีใครยอมใคร แม่ยายก็คว้าปืนที่เตรียมมาด้วยยิงใส่ลูกเขย ฝ่ายลูกเขยก็หยิบปืนออกมายิงใส่แม่ยายจนตาย แต่ถ้าพูดกันได้ด้วยดีเรื่องความตายก็จะไม่เกิดขึ้นแต่เพราะด้วยความรักที่แม่มีต่อลูกลืมคิดไปว่าเราเป็นผู้หญิงจะไปสู้อะไรผู้ชายได้ แต่ด้วยความรักลูกมากที่ถูกลูกเขยตบตีจึงเป็นเดือดเป็นแค้นจนลืมตัวไปชั่วขณะหนึ่ง แต่สิ่งที่ได้รับก็คือความตายนั่นเอง นี่แหละแม่ ถึงตายเพื่อลูกก็ยอมตายได้ จึงเป็นเรื่องอุทธาหรณ์อีกเรื่องหนึ่งของความรักที่แม่มีต่อลูก แต่ต้องจบลงด้วยความเศร้า ลูกๆทั้งหลายไม่ว่าหญิงหรือชายก็ขอให้เข้าใจความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูกด้วย และต้องรักพ่อรักแม่ทุกวันด้วยไม่ใช่จะรักพ่อรักแม่เฉพาะวันสำคัญเท่านั้นต้องรักทุกวันทำดีทุกวันดูแลทุกวันอย่าลืมนะครับพ่อแม่นั้นมีคู่เดียวในโลกเท่านั้นในชีวิตของเรา เราต้องดูแลให้ดี ผมขอต่อตรงนี้นิดหนึ่งนะครับอีกครอบครัวหนึ่ง พ่อเป็น อัมพฤก ลูกสาวต้อง
คอยดูแล อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ป้อนข้าว ป้อนยา พาไปโรงพยาบาล ทำอยู่เป็นประจำทุกวัน นี่ก็ดีไปอีกอย่างหนึ่ง ที่มีความกตัญญูต่อพ่อ สิ่งที่ผู้หญิงคนนี้ทำนั่นแหละอานิสสงค์ จะได้กับตัวเขาเอง คนที่มีความกตัญญูรู้คุณต่อพ่อแม่เขาบอกว่าได้ดีทุกคนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ถ้าใครไม่เคยทำความดีอย่างที่ผมเล่ามานี้ ถ้ามีโอกาสอย่าลืมทำนะครับ แต่ถ้าใครได้ทำปรนนิบัติพ่อแม่ดีอยู่แล้วในทุกทุกวันก็ ขอให้ทำไปตลอดนะครับ และขอให้ได้รับผลบุญอันนั้นจงเกิดกับลูกที่ทำดีกับพ่อแม่ อย่านำความเดือดร้อนมาสู่พ่อแม่นะครับ

ผมขอเล่าเพิ่มอีกเรื่องนะครับมีครอบครัวหนึ่งแม่มีฐานะดี ลืมถามไปว่ามีลูกกี่คน แม่อายุ 85 ปีก็เกิดล้มป่วยลูกก็มาเยี่ยมแม่ พอมาดูแม่เสร็จขนสิ่งของพวกของมีค่าของแม่ไปหมดเลยและไม่มาเยี่ยมแม่อีก แต่ตอนหลังมาเยื่ยมแต่ก็ทำไม่รู้ว่าเอาของมีค่าของแม่ไป นี่แหละลูกทำไมต้องเป็นอย่างนี้ นี่คือเรื่งจริงจากคำบอกเล่าของคนบ้านใกล้กันผมจึงนำมาเขียนไว้เป็นสิ่งเตือนสติวาเราเป็นลูกทำไมต้องทำกับพ่อแม่อย่างนี้สิ่งที่ผ่านมาพ่อแม่ให้แล้วยังไม่พออีกหรือลูก?
ผมขอให้คุณพระศรีรัตนตรัย จงคุ้มครองให้ทุกท่านจงมีความสุขขอให้เจริญด้วยอายุวรรณสุข พละปฏิธนสารสมบัติตามความปรารถนาด้วยเถิด
สวัสดีครับ จาก แก้ว สาริกา

ไม่มีความคิดเห็น: