วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2552

กรรมสนอง

สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่านที่ได้ติดตามงานเขียนของผมมาตลอด ก่อนอื่นผมก็ต้องขอขอบคุณท่านผู้อ่านด้วยนะครับ บางครั้งการเขียนของผมอาจจะสะกดอักษรผิดบ้าง
วันนี้ผมก็มีเรื่องมาเล่าให้ฟังอีกเช่นเคยวันนี้ผมนำมาให้ท่านได้ฟังกัน สามเรื่อง

เรื่องที่ หนึ่ง เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับชายคนหนึ่งอายุประมาณ สี่สิบกว่าปี เลี้ยงแมวไว้แล้วแมวเข้ามาเดินพันขาตลอดเวลา ขณะทำกับเขาก็เกิดความรำคาญเลยเอาน้ำร้อนที่ร้อนอยู่บนเตาราดลงไปที่แมวตัวเล็กน้ำร้อนได้ไปลวกขาแมวๆขาถลอกมีแผลเป็นทันตาเห็นและแมวก็งอขาไม่ได้หนังที่ผิวหนังยึดติดกัน จึงทำให้เดินไม่สะดวกเวลาเดินต้องเดินสามขาๆอีกขาข้างหนึ่งก็คอยแต่เขย่งไป แต่ในเวลาเดียวกันชายคนนั้นก็มีปัญหาคือขาเจ็บเกิดจากเหตุอะไรไม่ทราบเพราะคนที่เล่าให้ฟังเล่าไม่จบก็ สรุปว่า นี่เห็นไหมคนเราทำได้กระทั้งสัตว์เดรัจฉาน คนอะไรใจดำจริงๆยาก็ไม่ใส่ให้มัน

เรื่องที่สอง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดมานนานประมาณ ห้าสิบกว่าปีผ่านมาแล้ว คือมีครอบครัวหนึ่งอยู่กันสองคนผัวเมียและมีสุนัขตัวเล็กกำลังซนอยู่สองตัว ผัวชอบกินน้ำตาลเมา พอเมาดีแล้วกลับมาบ้านชอบทะเลาะกับเมียเป็นอย่างอยู่ประจำ ก็มีอยู่วันหนึ่งผัวกินน้ำตาลเมาๆมากวันนั้นมาถึงบ้านก็ทะเลาะกับเมียอีกแต่วันนี้ทะเลาะกันแรงมาก คว้ามีดมาจะฟันเมียแต่ทำอะไรเมียไม่ได้ก็พาลมาทะเลาะกับหมาที่เลี้ยงไว้เพราะขณะที่ทะเลาะกับเมียอยู่นั้นหมาก็เห่าว่าอย่างนั้นเถอะ คนเมาคงจะรำคาญมีดที่อยู่ในมือก็ฟันไปที่หมาตัวหนึ่งถูกที่คอๆขาดเลยส่วนอีกตัวหนึ่งเป็นแผลเหวอะหวะไปทั้งตัวแต่ก็ตายด้วยเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว แต่คนเมาเหล้าคนนี้อยู่ต่อมาไม่นานประมาณ สองเดือนเขาก็ถูกแทงตายด้วยเรื่องของคนเมาด้วยกันนั่นเอง

เรื่องที่ สาม เรื่องนี้เป็นเรื่องตัวผมเองแต่เป็นเรื่องที่เกิดมาประมาณ ห้าสิบปีมาแล้วเพราะตอนนั้นผมเป็นเด็กวัดมีอายุได้ประมาณเจ็ดถึงแปดขวบถ้าจำไม่ผิด เพราะพ่อผมบวชพระที่วัดใกล้บ้านผมก็ไปเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อผม มีอยู่วันหนึ่งผมก็นั่งกินข้าวอยู่และมีแมวนั่งดูผมกินข้าวอยู่ด้วยตัวหนึ่ง แต่พอดีลุกขึ้นไปตักน้ำมากินในเวลาเดียวกันแมวตัวนั้นผมเดินกลับมาก็กินปลาที่ผมกำลังจะกินอยู่เอาไปกินผมเกิดความโมโหมากในช่วงเวลานั้นผมจับแมวตัวนั้นได้ผมตีแมวตัวนั้นและจับแมวแขวนคอและยกขึ้น(แต่แมวตัวนั้นยังไม่ตายนะครับ) เพราะพอดีหลวงพ่อเดินออกมาจากกุฏิเห็นผมทำอย่างนั้นก็ดุผมและลงโทษผมคือเอาไม้เรียวตีผมบอกว่าการทำอย่างนี้ไม่ดีมันบาปแมวจะไปรู้เรื่องอะไรมันกินแล้วก็ปล่อยมันสิ และหลังจากวันนั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันนี้ท่านเชื่อไหมผมปวดหัวและปวดตรงต้นคอตลอดเวลาถึงจะกินยาแก้ปวดแล้วก็ไม่หายปวด ทรมานมากครับแม้แต่จะทำบุญอุทิศบุญกุศลไปให้แล้วก็ยังไม่หายเลย เวลานี้ผมก็ยังปวดอยู่นี่คือกรรมเวรที่เราก่อไว้ในอดีตตอนนั้นผมเป็นเด็กซึ่งยังไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลยว่าบาปเป็นอย่างไรนี่ขนาดผมยังไม่รู้เรื่องเลย บาปนั้นยังตามเกาะกุมทำให้ผมปวดต้นคออยู่ตลอดเวลา ท่านผู้อ่านครับนี่เป็นเรื่องจริงจากตัวผมเอง ทุกวันนี้พอก็ยังสำนึกอยู่เลยว่าต้องอดทนเพราะมันเป็นกรรมของเราเพราะเราไปทำกับเขาก่อนผมเสียใจมาก นี่ผมเขียนให้ท่านได้อ่านกันนี้ผมก็น้ำตาซึมเลยนะครับ ฉะนั้นท่านผู้อ่านทุกท่านที่ได้อ่านเรื่องที่ผมเล่ามานี้ผมบอกได้เลยครับว่าบาปนั้นมีจริงใครอะไรไว้อย่างไรจะได้ผลตอบแทนอย่างนั้นในลักษณะใกล้เคียงกันแต่จะไม่เหมือนเลยทีเดียวก็เหมือนดั่งที่เขาบอกไว้ว่าเราปลูกต้นไม่เช่นไรก็ได้ผลของมันเช่นนั้น ขอให้ท่านผู้อ่านทำดีกันไว้นะครับอย่าว่าผมมาสอนท่านนะครับเพราะผมเจอมาแล้วผมไม่อยากให้ท่านผู้อ่านทั้งหลายต้องมารับกรรมเช่นกัน บางคนบอกว่าไม่เป็นไรไม่บาปหร๊อกอย่าเชื่อนะครับ
ไว้โอกาสต่อไปผมจะมาเล่าให้ฟังอีกนะครับ
วันนี้ สามเรื่องสั้นครับแต่ก็เห็นว่ามีคุณค่าผมเลยนำมาเขียนให้ท่านได้อ่านกันครับให้ไว้อ่านเป็นอุทาหรณ์ว่าคนเราเกิดมาในโลกนี้ก็ต้องพึ่งพาอาศัยกัน อย่าได้ใจดำต่อกันไม่ว่าจะเป็นคนหรือเป็นสัตว์ เราต้องมีความเมตตาต่อกันถ้าเราไม่มีเมตตาต่อกันแล้ว มัวแต่ใจร้ายไม่รักกันโลกที่เราอยู่จะมีความสุขได้อย่างไร เพราะเรามัวแต่รังเกียจกัน ไม่คิดพึ่งพาซึ่งกันและกันต่างคนต่างอยู่ มันจะเป็นไปได้อย่างไร ผมก็ขอวิงวอนให้ทุกท่านมีเมตตาธรรมต่อกัน จงหันหน้าเข้าหากัน ยิ้มเข้าหากัน จะไม่ดีกว่าหรือ สังคมที่เราอยู่ได้ให้มีความสุขนั้น คนในสังคมต้องรักกันมีความเมตตาต่อกันมีการให้อภัยซึ่งกันและกันไม่ใช่หันหน้าเข้าห้ำหั่นให้บาดเจ็บหรือตายกันไปข้างหนึ่ง อย่าลืมนะครับไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์ก็มีความรักด้วยกันทั้งนั้น เพราะฉะนั้นในเมื่อเราเกิดมาเป็นมนุษย์ก็นับว่าโชคดีมากอยู่แล้ว เราต้องรู้จักเป็นผู้ให้และรู้จักคำว่า มีเมตตาธรรมและคุณธรรม ด้วย
สำหรับวันนี้สวัสดีครับ
จาก แก้ว สาริกา